วันนี้เป็นวันก่อนกลับครับ ซึ่งผมแพลนไว้ว่าจะแวะไป โกดัง ที่เมือง Chiba ซึ่งเป็นโกดัง ที่ไว้รับของเวลามีลูกค้าสั่งซื้อของต่างๆจากในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น อะไหล่รถยนต์ อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง ของเล่นมือสอง เสื้อผ้า ก็จะส่งมาพักของไว้ที่โกดังนี้ ก่อนที่จะเอาใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ส่งกลับไปไทยอีกทีนึงครับ .. โดยก็มีแพลนไว้คร่าวๆ ว่าจะแวะไปที่ไหนบ้าง เพราะวันนี้ ก็เช่ารถที่ Toyota Rent a Car ไว้ครับ เลยสามารถขับรถเที่ยวเล่นได้อีกวันนึงเต็มๆ แล้วก็กะว่าจะแวะไปดู Model Gundam ที่ The Gundam Base Tokyo ซักหน่อยครับ
วันพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางกลับญี่ปุ่นแล้วครับ .. 8วัน ในญี่ปุ่น ช่วง 4-5 วันแรกรู้สึกเวลาผ่านไปช้ามากครับ สนุกกับการกลับมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นตลอดเวลา ได้เจออากาศหนาวๆ สะใจสุดๆ แป๊บเดียวก็วันที่ 8 ซ่ะแล้ว ปกติผมจะอยู่ญี่ปุ่นลากยาวจนเต็มลิมิตคือแถวๆ 14 วัน แต่รอบนี้พึ่งย้ายที่ทำงานมา วันลาน้อยซ่ะจนเหมือนแทบไม่มีวันลา 555 .. เลยได้มาเที่ยวรวมๆแล้วแค่ 10วัน เท่านั้นเอง
ป่ะครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะเช่ารถขับไปที่โกดัง .. รอบนี้จองรถกับ Toyota Rent a Car ครับ รองเปลี่ยนมาจองกับของที่นี่ดูบ้าง เพราะตอนแรกลองเช่าของ Nippon Rent a Car แล้ว ก็ถือว่าใช้ได้อยู่ สามารถตามกลับไปดูได้ที่ 9 Days at Japan in 2023 (Day 3) นะครับ
สาขาของ Toyota Rent a Car ก็จะมีกระจายไปทั่ว ไม่ต่างกับของ Nippon Rent a Car ครับ โดยที่ของ Toyota Rent a Car นั้น ผมเข้าใจว่า รถทั้งหมด ก็จะมีแต่รถของยี่ห้อโตโยต้า เท่านั้น .. สาขาที่เราจะไปรับรถกันวันนี้ก็อยู่แถว Nakano Broadway ครับ ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่นัก
ผมขอย้อนกลับไปถึงวิธีการ เช่ารถ Toyota Rent a Car ซักนิดนะครับ .. หากใครต้องการจองรถของ Toyota Rent a Car ก็สามารถเข้าไปจองได้ที่เว็บ : https://rent.toyota.co.jp/th/ เลยครับ มีทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ จองง่าย ไม่ยุ่งยากครับ
เข้าไปหน้าแรก ก็ให้เลือกว่าเราจะเริ่มเช่ารถจากบริเวณไหน เช่น ผมพักอยู่แถว Nakano Broadway ก็ใส่สถานที่นี้ลงไปครับ
ระบบก็จะค้นหา สาขาของ Toyota Rent a Car ที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น มาแสดงให้ตามตัวอย่างครับ .. ซึ่งสามารถกด + (เครื่องหมายบวก) ที่แผนที่ เพื่อขยายแผนที่ เพื่อเข้าไปดูพิกัดของสาขา ให้ละเอียดมากขึ้นได้ครับ .. และหลังจากขยายแผนที่แล้ว ตัวไอค่อนสีเขียวๆ จะแสดงพิกัดของสาขานั้นๆ ครับ ซึ่งเราสามารถกดที่ ไอค่อน สีเขียวเพื่อดูได้ว่า สาขาที่เราเลือกนั้น คือสาขาไหนครับ
หลังจากกดเลือกสาขาที่ต้องการเช่ารถแล้ว ระบบก็จะแสดง วันรับรถ และ วันคืนรถ มาให้เพื่อให้เราระบุข้อมูลเพิ่มเติมครับ ซึ่งตรงนี้ เราสามารถเลือกเพิ่มเติมได้ด้วย ว่าจะคืนรถที่สาขาเดิม หรือ จะคืนรถที่สาขาอื่น .. กรณีที่คืนรถที่สาขาอื่นนั้น ถ้าอยู่ในเมืองเดียวกัน ส่วนใหญ่จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ แต่ถ้าคืนต่างเมือง ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้น ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ตรงนี้สามารถลองเปรียบเทียบราคาดูก่อนได้ครับ .. แล้วก็จะมี รูปแบบรถยนต์ ที่ต้องการเช่าให้เลือกเพิ่มเติม เช่น เกียร์อัตโนมัติ , ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ ยางฤดูหนาว (สำหรับขับลุยหิมะ ถ้ารถไม่ได้ใส่ยางแบบลุยหิมะ กรณีที่บางพื้นที่มีหิมะเยอะๆ อาจจะมีด่านแล้วถูกกันไว้ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่นั้นๆได้ครับ) ซึ่งตัวที่สำคัญๆ ก็คือ ยางสำหรับลุยหิมะ นี่แหละครับ ถ้ามีแพลนจะต้องเข้าไปในพื้นที่ ที่อาจจะมีหิมะ ก็ระบุตัวเลือกนี้เผื่อไว้ได้เลยครับ .. แล้วก็ยังมีตัวเลือก สำหรับ เด็ก อายุ (0.1 – 5ปี) ด้วยครับ เพราะจะต้องเผื่อสำหรับ Car Seat ครับ ผมเข้าใจว่า กฏหมายที่ญี่ปุ่น เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี จะต้องนั่งใน Car Seat ครับ
ถ้าวันที่เราต้องการจะเช่ารถนั้น มีรถว่างอยู่ ก็สามารถกดที่ปุ่มสีเขียว “เลือก” เพื่อทำการจองรถคันนั้นๆ ได้เลยครับ ..
หรือ สามารถเปลี่ยนประเภทของรถ เพื่อค้นหารถประเภทของรถ ที่ต้องการจะเช่าได้จากแถบด้านซ้ายครับ และยังสามารถเลือกรุ่นรถได้อีก โดยการกดที่ปุ่ม “เลือกรุ่นรถ” หลังจากนั้น ระบบก็จะแสดงรถรุ่นต่างๆ ในประเภทรถที่เราเลือกขึ้นมาให้อีกทีตามตัวอย่างครับ .. อ้อ เราสามารถจองรถล่วงหน้าได้แค่ 3 เดือนเท่านั้นนะครับ
หลังจากเลือกรถที่ต้องการจองได้แล้ว ระบบก็จะไปขั้นตอนถัดไปครับ โดยให้เราสามารถเลือก อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมได้ครับ ตัวเลือกนึงที่แนะนำให้ใช้ก็คือ บัตร ETC ครับ เพื่อเอาไว้ใช้ขึ้นทางด่วนในญี่ปุ่น แล้วชีวิตในการเดินทางจะง่ายขึ้นเยอะครับ แล้วก็ตัวเลือกประกันภัย ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่อยากให้เลือกครับ จะได้ขับรถแบบสบายใจ แต่ก็ยังต้องขับแบบเน้นความปลอดภัยอยู่ดีนะครับ
ถัดไปก็จะเป็น ข้อมูลรายละเอียดลูกค้า ตรงนี้ก็ให้กรอกชื่อของคนที่จะเป็นคนรับรถ ลงไปเลยครับ .. อ้อ ข้อมูลอีกอันนึงที่สำหรับสำหรับการเช่ารถที่ญี่ปุ่นก็คือ ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ ที่สามารถใช้ได้ที่ญี่ปุ่น คือ แบบ 1949 เท่านั้นนะคับ หรือจำง่ายๆก็คือ อายุของใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ 1 ปี เท่านั้น!!! .. ตัวอย่างตามนี้ครับ
ถ้าเป็น ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ แบบ 3ปี จะไม่สามารถใช้ได้ที่ประเทศญี่ปุ่น นะครับ
1) หนังสือเดินทางสำหรับใช้เดินทางและยังไม่หมดอายุ (สำเนาและฉบับจริง)
2) บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
3) ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล (แบบ 5 ปี) หรือแบบตลอดชีพที่ยังไม่หมดอายุ ใช้ได้ทั้งใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถสาธารณะ เป็นต้น (ฉบับจริง / ใบแทนใบอนุญาตแล้วแต่กรณี) 4) รูปถ่าย 2 นิ้ว (4 x 6 ซม.) 2 รูป เป็นรูปครึ่งตัวหน้าตรง เห็นใบหน้าชัดเจน และถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน 5) ค่าธรรมเนียม 505 บาท
*กรณีไม่ได้ไปยื่นด้วยตนเองจะต้องเตรียมเอกสารมอบอำนาจแนบไปเพิ่ม ดังนี้
1) สำเนาเอกสารตามข้อ 1-3 ของผู้มอบอำนาจ
2) หนังสือมอบอำนาจ (ฉบับจริง) พร้อมระบุประเทศที่จะเดินทาง และติดอากรแสตมป์ 10 บาท
3) บัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจที่ยังไม่หมดอายุ (ฉบับจริง)
4) หลักฐานการแก้ไขชื่อ-สกุล คำนำหน้า ยศ ในกรณีที่เอกสารตามข้อ 1-3 ของผู้มอบอำนาจไม่ตรงกัน พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
หลังจากกรอกรายละเอียดเรียบร้อย .. ก็จะถึงขั้นตอนสุดท้ายครับ ระบบจะแสดงข้อมูลต่างๆ ให้ตรวจสอบอีกรอบนึงตามตัวอย่างครับ
ส่วนแรกจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับรถที่จองครับ
ส่วนที่สองจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับผู้จอง และ เงื่อนไข & ข้อตกลง สำหรับการจอง ครับ
หลังจากตรวจข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ก็เลือก “ยอมรับกับเงื่อนไขข้างต้น” แล้วก็ กดปุ่ม “ยืนยันการจอง” ได้เลยครับ
ตอนนี้ก็ถือว่าได้จองเรียบร้อยแล้วนะครับ แต่ .. เหลืออีกนิดนึง คือ ระบบจะให้ใส่ email เพื่อส่งรายละเอียดการจองไปที่ email นั้นๆ อีกรอบครับ
หลังจากนั้น ระบบก็จะส่ง email ยืนยันการจองรถของคุณมาให้ ก็เข้าไปตรวจสอบอีกทีนึง ถ้าทุกอย่างถูกต้อง ก็ถือว่าเราได้จองรถเรียบร้อยแล้วครับ .. ตัวอย่าง email ที่ได้รับก็จะประมาณนี้ครับ
Email ที่ได้รับ จะถูกส่งมาจาก trres@rent-toyota.jp ครับ และมี subject ว่า “คำแนะนำการจองรถโตโยต้าเรนท์อะคาร์” ถ้าได้รับเมล์แล้ว ก็ถือว่าเรียบร้อยคับ แต่กรณีที่ไม่เจอ email ก็ลองเข้าไปดูที่ spam ใน email ครับ อาจจะไปอยู่ในนั้น หรือถ้าไม่เจอ ก็สามารถ นำหมายเลขการจอง ไปตรวจสอบได้ครับ
ปล. การจองรถ Toyota Rent a Car ยังไม่ต้องจ่ายเงินนะครับ ค่อยไปจ่ายตอนรับรถทีเดียว ส่วนค่าทางด่วน ก็ค่อยกลับมาจากตอนคืนรถครับ
………………………………………………………………………
เล่าเรื่องการจองรถผ่านทาง Toyota Rent a Car ไปซ่ะเยอะเลย .. กลับมาต่อกัน ตอนรับรถ ที่ Toyota Rent a Car กันครับ .. เดินมาถึง Toyota Rent a Car สาขา Nakano แล้วครับ
พิกัดของ Toyota Rent a Car สาขา Nakano ดูตามนี้ได้เลยครับ
สำหรับสาขา Nakano ไม่รู้เพราะว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Nakano ด้วยหรือเปล่า เพราะดูแล้วใหญ่มาก มีรถจอดอยู่เพียบ ดูคร่าวๆ น่าจะเกิน 20 คัน เป็นอย่างน้อย แถมช่วงที่ผมไปถึงนั้น กำลังมีลูกค้ามารับรถ บรรทุกแบบ 4ล้อ เล็ก อยู่ด้วย .. มีให้เช่ามากมายหลายแบบจริงๆ
สำหรับการรับรอที่ Toyota Rent a Car ผมรู้สึกว่าค่อนข้างง่ายกว่าของ Nippon Rent a Car อาจจะเพราะพนักงานของที่นี่ น่าจะมี stand by อยู่หลายคนด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่รู้สึกว่า ค่อนข้างเร็ว และ คุยแล้วเข้าใจกันง่ายกว่า ถึงแม้ทางพนักงานอาจจะไม่ค่อยได้ภาษาอังกฤษเท่าไหร่น่ะ แต่อาจจะเพราะระบบที่เป็นขั้นตอน ก็เลยค่อนข้างเข้าใจง่าย ใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสาร น่าจะไม่ถึง 5 นาที ครับ .. ตัวอย่างเอกสารด้านบน เป็นเหมือนรายละเอียดเกี่ยวกับการรับประกันเวลามีอุบัติเหตุ คับ ว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง โทรไปที่เบอร์ไหน ตอนที่เห็นนี่ แอบคิดเล็กๆว่า ถ้าเจออุบัติเหตุจริงๆ ปลายทางจะพูดภาษาอังกฤษ ได้ใช่มั้ย จะคุยกันรู้เรื่องใช่มั้ย .. 555
หลังจากเสร็จเรื่องเอกสารต่างๆเรียบร้อย ขั้นตอนถัดไป พนักงานด้านในก็จะส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่อีกส่วนงานนึง เพื่อให้ไปตรวจสอบรถที่จะต้องรับ ว่ามีรอยอะไรตรงไหนบ้าง โดยปกติตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ค่อนข้างตรวจสอบระเอียดอยู่ครับ แต่เพื่อไม่ให้มีปัญหาทีหลัง ถ้าเราเห็นจุดไหนที่เจ้าหน้าที่ข้ามไป ก็สามารถชี้เพิ่มเติมในจุดนั้นๆได้ครับ
จากรอบก่อนหน้านี้ เช่า Honda Jazz ที่ Nippon Rent a Car มารอบนี้ ของ Toyata Rent a Car ผมลองเช่า Toyota Yaris Hybrid ดูครับ .. ได้ข่าวว่าประหยัดน้ำมันมาก เลยอยากจะรู้ว่าจะขนาดไหน แล้วก็รุ่นนี้เหมือนจะไม่มีในไทยด้วยมั้ง
ภายในของ Toyota Yaris Hybrid ก็ตามแนว Eco car ครับ ไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรมากมายนัก เน้นเรียบๆ แต่ขับสนุกดีนะคับ คล่องตัวพอสมควร ขับไม่ยากเลย แถมรู้สึกว่าแรงกว่า Honda Jazz ซ่ะอีก แล้วก็ตัว Navigator ใน Toyota Yaris เหมือนคนละแบบกับใน Handa Jazz มันใช้ง่ายกว่าเยอะเลยอ่ะ ใส่อะไรเข้าไปก็เจอ ทั้งที่รอบของ Honda Jazz ใส่อะไรก็ไม่เจอ ฮาาาาาา ..
เส้นทางรอบนี้ครับ ผมจะขับไปโกดังแถวโซน Nagara, Chōsei District ครับ ซึ่งเลือกเส้นทางที่จะข้ามอ่าว Tokyo Bay โดยผ่านทางอุโมงครับ
ช่วงกำลังขับในอุโมงค์ ก็เห็นว่าด้านหน้าแถวๆกลางอ่าวจะมีจุดพักรถอยู่ เลยกะว่าจะจอดลงไปเดินเล่นซักนิด แล้วก็ค่อยเดินทางต่อ แต่พอมาถึงปุ๊บ ไม่คิดว่าจุดพักรถตรงนี้จะใหญ่ขนาดนี้ครับ .. ตรงนี้เรียกกันว่า Tokyobay Aqua-Line Umihotaru เป็นจุดพักรถที่มีร้านอาหารและจุดชมวิว เลยทำให้สถานที่ตรงนี้ค่อนข้างใหญ่มากครับ
ที่จอดรถนี่ น่าจะมีประมาณ 2-3 ชั้นเลยครับ สามารถรองรับรถที่ผ่านและแวะเข้ามาที่จุดพักน่าจะได้หลายร้อยคันอยู่เหมือนกัน .. วันนี้สภาพอากาศทึมๆนิดหน่อยครับ เมฆเพียบ เหมือนจะมีฝนเลย แถมอากาศก็ประมาณแถวๆ 5 องศา บวกกับลมที่แรงๆ เย็นสะใจดีแท้
ถ้าจำไม่ผิด ที่ Tokyobay Aqua-Line Umihotaru น่าจะมีทั้งหมดประมาณ 5ชั้น ครับ โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ ชั้น 1 , 2 และ 3 น่าจะเป็นลานจอดรถกับห้องน้ำ ส่วนชั้น 4 จะเป็นโซนขายของฝากแล้วก็มีร้านอาหาร แล้วก็ ที่นี่มี Starbucks ด้วยครับ .. ส่วนชั้น 5 ก็จะเป็นส่วนชมวิวแล้วก็มีร้านอาหารอยู่ด้วย .. สามารถเดินได้รอบเลยครับ ตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนเรือโดยสารขนาดใหญ่เลย
เสียดายวันนี้เมฆดันเยอะ ไม่งั้นวิวน่าจะสวยแน่ๆเลยครับ
แถวนี้น่าจะต้องมีปลาโลมาแหง่ๆเลยยยยย
ด้านนี้มองกลับไปยังฝั่ง สนามบิน Haneda Airport ครับ .. ถ้าฟ้าเปิด ไม่มีเมฆ แดดออกพอประมาณ น่าจะถ่ายรูปสวยอยู่นะครับ
เดินลงมาแถวๆด้านล่าง ก็จะเห็นแนวถนนอุโมงลอดอ่าวโตเกียวครับ .. ดูยิ่งใหญ่แท้ ส่วนบรรยากาศทั้งหมด เดี๋ยวถ้า upload ลง youtube เรียบร้อยแล้วจะเอามาลงให้ดูอีกทีนะคับ ..
youtube
เดินเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่ที่ Tokyobay Aqua-Line Umihotaru นานพอสมควรครับ น่าจะเกือบ 1ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ขับรถไปต่อที่โกดังครับ .. แล้วก็เจอฝนตกปรอยๆตลอดทาง
มาถึงโกดังแล้วครับ .. ผมก็ยังคงตกปรอยๆอยู่ โซนแถวนี้ ฝนจะตกค่อนข้างบ่อยคับ อากาศหนาว แล้วก็ไม่ค่อยมีหิมะ .. แปลกดีเหมือนกัน แถมช่วงหน้าร้อน ก็ร้อนสะใจมาก พี่ๆที่ประจำอยู่ที่นี่บอกว่า ช่วงหน้าร้อนนี้ ปลาในน้ำแถวนี้ ตายกันเยอะเหมือนกัน
บริเวณของโกดังที่พักของ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกอะไหล่รถมือสองของญี่ปุ่นครับ .. รอบนี้ผมเอากระเป๋าเดินทางมาส่งกลับทางตู้เพื่อจะได้ไม่แบกน้ำหนักขากลับมากเกินไปนัก จะได้เอาไว้ขนขนมกลับไทยเยอะๆ 555
ระหว่างตอนอยู่ที่โกดัง ก็มีรถมาส่งของพอดีครับ .. ที่โกดัง จะเปิดรับของทุกวันครับ วันเสาร์หรืออาทิตย์ก็เปิดรับครับ เพราะที่ญี่ปุ่น ก็จะมีส่งของกันทุกวันเลย
ขอคั่นโฆษณานิดนึงครับ .. สำหรับใครที่ต้องการสั่งสินค้าอะไรที่ญี่ปุ่น สามารถติดต่อมาคุยกันได้นะครับ Line ID : nomerzy ครับ หรือสามารถเข้าไปที่
Facebook Page : Nut Autoparts / https://www.facebook.com/NutAutoparts/ ของผมได้ครับ
สามารถดูรายการสินค้าที่สนใจจากประเทศญี่ปุ่น ได้ตาม Link ด้านล่างนี้เลยครับ ..
– https://auctions.yahoo.co.jp/
หรือถ้าหากว่าเป็นเว็บไซส์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ก็สามารถส่งมาคุยกันได้ครับ .. นัท ยินดีให้บริการเต็มที่
อะไหล่รถมือสอง ที่ถอดเตรียมเอาไว้ รอเอาเข้า ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อส่งกลับไปประเทศไทยครับ
หลังจากเสร็จธุระที่โกดังเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมาที่โตเกียว ซึ่งแพลนไว้แล้วว่า จะแวะไปดู Gundum ที่ DiverCity Tokyo Plaza ซักหน่อยครับ
ช่วงเวลาที่ผมไป ไม่ชัวร์ว่าเพราะเป็นวันเสาร์ช่วงเย็นๆ ด้วยหรือเปล่า คนที่มา Gundum Base Tokyo จึงเยอะมาก ถึงกับต้องรับบัตรคิวเพื่อเข้าไปด้านในตามรอบเวลาเลย .. ระหว่างรอรอบที่จะเข้าไป ผมก็เดินดูของไปเรื่อยเปื่อย เจอ Hollister ลด 50% .. โดนอีกจนได้
หลังจากเดินไปซักพัก ก็ถึงรอบที่จะได้เข้าแล้วครับ .. แต่ ไม่ใช่ว่าเข้าได้เลยนะคับ ต้องไปต่อคิวเพื่อทยอยเข้าอีกรอบ .. คิวยาวเหยียดเลยยย
กว่าจะได้เข้าไปด้านใน The Gundum Base ก็ใช้เวลาอีกประมาณ 10นาที ครับ .. คนด้านในก็เยอะอยู่เหมือนกัน
รอบนี้ตอนแรกแพลนว่าจะมาซื้อ Gundum แบบ Perfect Grade แต่ดูงบจากการ shopping ก่อนหน้านี้แล้ว เลยอดซื้อเลย
หากถ้าใครที่แวะมาที่ The Gundum Base แล้ว ก็สามารถออกไปดู Gundum scale 1:1 ทางด้านนอกตึกได้นะคับ .. แล้วก็ตัวนี้อาจจะขยับไม่ได้เหมือนตรง Yokohama ครับ เป็นแค่ตัวที่ตั้งโชว์ไว้อย่างเดียว ซึ่งตอนกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟที่ตัวหุ่นด้วย สวยเลย
PF grade (Perfect Grade) นี่รายละเอียดเยอะดีแท้ .. สวยจัง
รูปนี้เป็นรูปแทนนะครับ ถ่ายไว้เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน .. รอบนี้ลืมเดินออกไปถ่ายซ่ะงั้น
หลังจากเดินดู Gundum จนเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาเอารถกลับไปส่งคืนที่ Toyota Rent a Car ที่สาขา Nakano แล้วครับ ..
Toyota Yaris ตัว Hybrid คันที่เช่าจาก Toyota Rent a Car คันนี้ เป็นอีก 1รุ่น ที่ใช้งานง่าย สะดวก และ คล่องตัวดีครับ ถ้าหากมาเที่ยวญี่ปุ่นกัน 2 คน แล้วก็มีกระเป๋าเดินทาง 2-4 ใบ ผมว่า Yaris คันนี้สามารถขนไปได้หมดครับ เครื่องไม่อืด ขับทางไกลน่าจะพอไหว
น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่ได้นำมาขายที่ประเทศไทยครับ น่าโดนอยู่เหมือนกัน เพราะค่อนข้างประหยัด .. อัตราการใช้น้ำมันตกที่ประมาณ 35 กิโลเมตร ต่อ 1 ลิตร ครับ ถือว่าค่อนข้างประหยัดเลยทีเดียว
คันนี้เป็นอีกคันนึงที่มีคนมาคืนก่อนหน้าผม ทางพนักงานก็กำลังทำความสะอาดอยู่ .. น่าจะเพื่อเตรียมส่งรถในวันพรุ่งนี้ต่อเลย …
หลังจากคืนรถเสร็จ ก็เริ่มหิวนิดๆแล้วครับ .. เพราะตอนนี้ก็ประมาณ 6โมงเย็นกว่าๆ แต่มืดตื้บเลย วันนี้แฟนผมชวนกิน Ootoya ครับ .. เพราะเค้าอยากลองกินมาหลายวันแล้ว ว่ามันจะต่างกับที่ไทยมั้ย 555
ส่วนตัวผม ถ้าเรื่องรสชาต ก็เหมือนที่ไทยนะ ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เมนูอาจจะมีเยอะกว่าที่ไทยพอสมควร แต่เรื่องวัตถุดิบหรือการปรุง ไม่ค่อยต่าง ยกตัวอย่างเช่น ปลา ที่ผมกิน ก็แทบจะเหมือน Ootoya ในไทยเลยแหละ แถบไม่ต่างกันเลย 555 .. ส่วนแฟนผมถ้าจำไม่ผิดเค้าสั่งเป็น กิมจินาเบะ มั้งนะครับ
หลังจากของคาวเรียบร้อย ก็ต้องล้างปากด้วยของหวานซักนิด .. เจอไอศกรีมเจ้านี้ เห็นมีลูกค้าซื้อกันเยอะ เลยขอลองบ้างครับ .. อร่อยดี เป็นเหมือน Soft ice cream
หลังจากกินเสร็จแล้ว แฟนผมขอเดินกลับไปพักที่ห้องก่อน เพราะต้องเตรียมเก็บของกลับไทยในวันพรุ่งนี้แล้ว .. ผมก็เลยเดินดูร้านต่างๆใน Nakano Broadway อีกซักครั้ง ถึงจะไม่ใช่แนวผมเองซักเท่าไหร่ แต่ก็ชอบดูพวกโมเดลต่างๆอยู่พอสมควร
ร้าน Gundum ยังตามมาหลอกล่อให้เข้าไปดูอยู่เรื่อยๆ .. เกือบได้เสียเงินซ่ะแล้ว
สาย Model หรือ Figures พวกตัว Cartoon ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Dragonball หรือ Onepiece ที่นี่น่าจะถูกใจไม่น้อยครับ เพราะมีร้านแนวนี้เต็มไปหมดเลย
มีให้ดูกันแบบละลานตามากครับ .. สำหรับนักสะสม ถ้ามานี่ ได้เสียเงินแน่นอน เพราะบางรายการ เห็นเขียนไว้ว่า Rare เยอะอยู่ แล้วราคาก็แพงพอสมควรเลย
ร้านนี้ก็จะเป็นของแนว Marvel .. น่าสนใจดีแท้
พวกร้านหนังสือการ์ตูน ก็มีเยอะครับ มีทั้งเก่าและใหม่ ใครอยากได้แนวไหน น่าจะมีหมดเลย
พวก Model รถ เรือ หรือ เครื่องบิน ก็มีครับ ..
หลังจากร้านต่างๆ เริ่มทยอยปิดแล้ว ผมก็เดินออกไปดูทางด้านนอกของ Nakano Broadway ก็จะเป็นโซนร้านของกินครับ .. มีหลายแนวเลย
ร้านอาหารโซนรอบๆ Nakano Broadway นี้เยอะมากครับ คนที่แวะมากินก็เยอะเช่นกัน ..
มีร้านแนว Maid Cafe แบบนี้ด้วย .. อยากลองเข้าไปเหมือนกัน แต่มาคนเดียวแบบนี้ น่าจะแย่ .. 55
ร้านอาหารแนว Fusion ก็มีนะคับ ดูจากด้านหน้าแล้ว อยากเข้าไปกินเลย .. แต่ยังอิ่มนิดๆอยู่ ยังไม่น่าจะกินไหว
ข้าวหน้าปลาไหลร้านนี้เกือบเดินตามกลิ่นหอมๆเข้าไปในร้านแล้ว .. ราคาดีเว่อร์
ร้าน Izakaya ก็มีหลายร้านอยู่ครับ .. แต่สุดท้าย ก็ไม่รู้จะเข้าไปกินร้านไหนครับ เลยเดินกลับไปกินร้านประจำแถวที่พักแทน 555
เครื่องในไก่ย่างเกลือ .. เมนูเดิมๆที่เรียบง่าย แต่อร่อยเว่อร์ กินพร้อมกับเบียร์เย็นๆ โคตรดี
จานที่สอง .. มาแบบช่ำๆ เลย ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงย่างได้โคตรอร่อยขนาดนี้
เบียร์ 2 แก้ว เครื่องในไก่ย่าง 10 ไม้ .. ค่าเสียหายอยู่ที่ 2,630 เยน ถือว่าโอเคเลยครับ กับ ความอร่อยที่ได้รับเป็นมื้อสุดท้ายของที่ร้านนี้สำหรับทริปนี้ ไว้รอบหน้าถ้ามาแถว Nakano อีก ไม่พลาดแน่นอนครับ
สำหรับ 9 Days at Japan in 2023 (Day 8) ก็ขอจบไว้เท่านี้ก่อนครับ พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับไทยแล้ว ยังไม่อยากกลับเลยยยยย
To be continue .. 9 Days at Japan in 2023 (Day 9)