ข้าวขาหมู เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดของผมครับ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ต้องตระเวนหาร้านอร่อยๆกินขนาดนั้น ซึ่งสำหรับร้านที่จะพาไปกินกันวันนี้ ผมรู้จักมานานพอสมควร แล้วก็อยากจะไปลองกินอยู่หลายครั้งแล้วเหมือนกันครับ แต่ด้วยติดที่เรื่องจอดรถ เวลาที่จะไปกินที่ร้านนี้ อาจจะลำบากซ่ะหน่อย แล้วก็ได้ข่าวว่าช่วงหลังนี้ ชาวจีนแทบจะไปถล่มร้านเลยก็ว่าได้ เลยติดโรคเลื่อน ไม่ได้แวะไปซักที แต่ในที่สุด ผมก็มีโอกาศได้แวะไปกินมาแล้วครับ เพราะต้องไปทำธุระแถวนั้นช่วงเช้า เลยตั้งใจแวะไปกินแบบจริงจังเลย กับ ร้านข้าวขาหมูเจริญแสง ครับ
ร้านข้าวขาหมูเจริญแสง เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานมากแล้วครับ น่าจะมากกว่า 50ปี เลยแหละ อย่างนึงที่อยากลองแวะมากินที่ร้านขาหมูเจริญแสง นั้นก็เพราะว่า อ่านรีวิวจากหลายๆที่ บอกว่า ขาหมูนุ่ม ขากินิ่ม ติดหวานนิดๆ (แต่ช่วงหลังเหมือนบอกว่าค่อนข้างหวานมาก) แต่อันนี้ก็ต้องเข้าใจกันว่า ความหวานของแต่ละคน ไม่เท่ากัน .. ผมเลยต้องแวะมาลองกินเองดูซักหน่อยครับ ส่วนพิกัด ขาหมูเจริญแสง ก็ตามด้านล่างนี้เลยได้ครับ
ร้านขาหมูเจริญแสง อยู่ในซอยเจริญกรุง 49 ครับ ที่จอดรถนี่ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าต้องไปจอดที่ไหน แต่วันที่ผมไปกินนั้น ผมไปถึงแถวร้านประมาณ 6:50 แล้วปากซอยมีที่จอดว่างอยู่พอดี เลยจอดไว้ริมตึกปากทาง เจริญกรุง 49 ครับ
หลังจากจอดรถเรียบร้อย ก็เดินเข้ามาที่ร้านครับ .. ตอนแรกตอนดูจาก google ก็คิดว่า ตำแหน่งผิดหรือเปล่า เพราะดูแล้วไม่คิดว่า ร้านอาหารที่คนกินมากมาย จะอยู่ตรงตำแหน่งที่แทบจะสังเกตุไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ แต่ก็พอเดินตามพิกัดมา ก็เจอร้านขาหมูแสงเจริญ แหละครับ ฮาาาาา
ผมมาถึงร้านตั้งแต่ยังไม่เปิด มาถึงก่อนเวลาเปิด 7:00 เล็กน้อย เลยนั่งรอที่โต๊ะบริเวณด้านหน้าร้านครับ ภายในร้านพนักงานก็กำลังวุ่นวายกับการเตรียมเปิดร้านขายในเวลาอีกไม่นานนี้ ซึ่งหน้าร้านก็เริ่มมีลูกค้าทยอยมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มากนัก
พอถึงเวลาร้านเปิด ทางพนักงานก็เดินเอาเมนูมาให้ผมครับ เพื่อที่จะได้สั่งอาหาร หลังจากดูเมนูแล้ว ก็อยากกินหลายอย่างเลย แต่วันนี้มาคนเดียว จะวู่วามสั่งก็ไม่ได้ เดี๋ยวไม่หมดละแย่เลย แล้วก็เป็นครั้งแรกที่มากินที่ร้านแสงเจริญด้วย เลยยังไม่ชัวร์ว่าจะถูกปากผมหรือเปล่า เลยสั่งเบาๆไปก่อนครับ
จานแรก คากิ ครับ ราคา 70บาท ดูเหมือนจะน้อย แต่จริงๆแอบชิ้นใหญ่อยู่นะครับ ทางแสงเจริญไม่ได้สับมาเป็นแบบชิ้นเล็กๆ เหมือนร้านอื่น แต่เสริฟมาทั้งคากิแบบที่เห็นในรูปเลย มาแบบกำลังร้อนๆ เลยทีเดียวครับ
จานถัดไป ผมสั่งเป็น เครื่องใน มาอีกจานครับ ผมสั่งจานเล็กมา 60บาท เพราะตอนแรกคิดว่าจะสั่ง ไส้พะโล้ แต่ทางร้านมีเป็นแบบ เครื่องในรวมหลายๆอย่างมา เลยลองสั่งแบบนี้มาแทนครับ
หลังจากได้ลองกิน คากิ ของ ร้านขาหมูแสงเจริญ ดูแล้ว ผมว่า ก็ไม่ได้หวานมากนัก แต่มีความหวานระดับนึงอยู่แหละครับ ถ้าคนไม่ชอบหวานมากนัก อาจจะรู้สึกว่ามันหวานไป แต่ผมว่า ก็ใส่น้ำส้มดอง ของทางร้าน ก็น่าจะช่วนลดความหวานลงได้นะครับ
หนังหมู มาแบบ บางๆ นิ่มๆ นุ่มๆ ละลายในปากสุดๆครับ โคตรดี
ยังครับ ยังไม่พอ พอกินคากิเสร็จแล้ว เหมือนยังไม่จุใจ เลยลองสั่ง ข้อคากิ มาลองกินเพิ่มอีกจานครับ ราคา 70บาท เช่นกัน น่าจะเป็นส่วนที่อยู่เหนือคากิครับ แต่ดูเหมือนยังไม่ค่อยนุ่มเปื่อยเหมือนกับคากิ แต่อันนี้คนที่ชอบดูดๆแทะๆกระดูก อาจจะชอบครับ ถ้ามาเปื่อยๆ เหมือนกับคากิ น่าจะดีเหมือนกัน
ถ้ารู้สึกหวาน ก็เติมน้ำส้มเข้าไปเล็กน้อยครับ ช่วยตัดหวานได้พอสมควร แล้วก็ ผักดองของทางร้าน ก็ใช้ได้ครับ ติดเปรี้ยวนิดหน่อย ใช้ตัดหวานได้เลย .. อ้อ ล้มไป ลืมพูดถึงน้ำซุปพะโล้ ของที่นี่ครับ ส่วนตัวผมว่ากำลังดี ไม่หวานมากนัก แล้วก็ไม่เค็มด้วย บางร้านจะติดเค็มพอสมควร ตักมาราดข้าวแล้ว ยังเค็มอยู่เลย แต่ที่นี่ เค็มนิดหน่อย อาจจะหนักไปทางหวาน ตักราดข้าว ก็ใช้ได้อยู่ครับ