9 Days at Japan in 2023 (Day 7)

เมื่อวานยังไม่สะใจเท่าไหร่กับ ปลาไหลย่าง ที่ร้าน Obana 尾花 (Tokyo) วันนี้เลยต้องกลับมาซ้ำร้าน Unagi อีกซักร้าน ซึ่งเป็นร้านที่เคยมาแล้วยังติดใจไม่ลืมครับ ซึ่งร้านนี้ ก็เคยได้ One MICHELIN Star เหมือนกันครับ ซึ่งครั้งก่อนกับครั้งนี้ ระยะเวลาถ้าคำนวนดูแล้ว ก็ห่างกันประมาณ 5ปีเลยทีเดียว ไม่รู้ว่ารสชาตจะยังเหมือนเดิมมั้ย เดี๋ยวลองไปดูกันครับ กับ Unagi Hashimoto ..

ปลาไหลย่าง ที่ ร้าน Hashimoto うなぎ はし本

เริ่มกันที่ตอนเช้าของวันที่ 7 ครับ .. ก่อนที่จะไปกินมื้อเที่ยงกันที่ร้าน Unagi Hashimoto นั้น ผมจองโต๊ะไว้ประมาณ 11:00 ครับ ซึ่งสามารถจองโต๊ะของทางร้านผ่านทาง Google ได้เลยครับ .. ครั้งแรกก็แอบ งง เหมือนกัน ว่า Google มันจะทำทุกอย่างไม่ได้นะ แบ่งให้คนอื่นเค้าทำบ้างงง 555

การจองโต๊ะของที่ร้าน Unagi Hashimoto ก็สามารถเข้าไปที่ Google แล้วพิมพ์คำว่า “unagi hashimoto” ก็จะเห็นปุ่มที่ให้จองโต๊ะตามรูปด้านล่างนี้ครับ .. หรือกดที่ link นี้ได้เลย >>> Reserve a table

ช่วงเช้าผมออกจากที่พักแถว Nakano ไปสถานี Ginza เพื่อจะไปกินอาหารเช้าที่ Starbucks Reserve® ครับ แต่พอไปถึงที่ร้านเต็ม เอาจริงๆ กะว่ามาเสี่ยงดวงเอา ถ้าโต๊ะเต็มก็ซื้อขนมด้านล่าง แล้วไปนั่งกินพร้อมกาแฟที่ Starbuck อีกสาขาติดๆกันแทน 555

ภายในร้าน Starbucks Reserve® หอมกลิ่นขนมปังมากครับ เพราะก็มีโซนที่แสดงให้เห็นการทำขนมปังแบบนี้เลย

Starbucks Reserve® at Ginza

สำหรับใครที่อยากจะซื้อกลับไปกิน ก็สามารถดูตรงตู้นี้ได้ครับ มีขนมปังให้เลือกมากมายหลายแบบเลย .. น่ากินทั้งนั้นเลยครับ

Starbucks Reserve® at Ginza

จัดไป 3อย่าง สำหรับมือเช้าวันนี้ .. เนื่องจากปกติขนมปังที่ร้าน Starbucks ส่วนใหญ่ ผมไม่ชัวร์ว่าเค้าทำสดๆใหม่ๆ ในร้านเลยหรือเปล่า แต่เข้าใจว่า ถึงจะทำใหม่ๆ แต่ก็อาจจะอยู่ในตู้นานแล้ว แต่สำหรับที่ Starbucks Reserve® สาขา Ginza นี้ ผมก็ดันเลือกรายการที่มันพึ่งออกมาจากเตาสดๆ เลยยังอุ่นๆอยู่ กรอบ หอม ละมุน โคตร .. เลยแหละ กินกับ กาแฟร้อนๆ นั่งตรงอากาศหนาวๆ ฟินแท้

Starbucks Reserve® at Ginza

หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินย่อยแถว Ginza อีกซักพักครับ เพราะตอนเช้าๆ ยังไม่ได้เดินจริงๆจังๆซักที .. เดินลากยาวจากโซน Ginza ไปถึง Tokyo Station ระยะทางก็ประมาณ 1.2 โล แต่เดินสบาย ไม่ร้อน ไม่เมื่อย โคตรชอบครับ

ระหว่างเดินไปสถานีโตเกียว ก็เจอคันนี้ขับผ่านมา .. ชอบมากครับ เท่าที่หาข้อมูลดู น่าจะเป็น Ford Model A 1930 แต่งเป็นแนว Hot Rod สวยโฮกกก

โซน Ginza ก็จะเจอรถสวยๆ ไฮโซๆ หรูๆ เยอะมากครับ ซึ่งสำหรับใครที่ชอบรถสวยๆ ถนนแถวโซน Ginza เหมาะกับการมาเดินมากครับ

หลังจากเดินถึง Tokyo Station แล้ว ก็เดินเล่นแถวร้านขายของ ด้านล่างของสถานีครับ พอเดินซักพักแล้ว ก็ขึ้นรถไฟต่อไปที่สถานี kagurazaka station แต่จริงๆแล้ว ก็จะมีสถานีที่ใกล้ร้านมากกว่านี้นะครับ คือ Edogawabashi Station ครับ แต่ผมเลือกที่จะมา สถานี kagurazaka station เพราะอยากเดินไปที่ร้านเรื่อยๆ เพราะโซนบ้านแถวนี้ จะเป็นโซนที่มีร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักๆเยอะพอสมควร แล้วก็โซนแถวนี้ จะเป็นย่านเก่าแก่ และสำหรับคนที่พักอาศัยอยู่โซนแถวนี้ ก็จะค่อนข้างมีฐานะพอสมควรครับ..

神楽坂 ペルゴー (Perregaux)

ผมมาถึงสถานี Kagurazaka Station ประมาณ 10:30 ครับ ออกมาด้านนอกสถานี เพื่อเดินไปที่ร้าน Hashimoto นั้น ก็จะเจอร้านค่าเฟ่น่ารักๆ ระหว่างทางหลายร้านเลย อารมณ์เหมือนโดนสะกดให้ต้องเข้าไปซ่ะงั้น .. ร้าน 神楽坂 ペルゴー(Perregaux) แอบเก็บไว้ เพราะคะแนนรีวิวค่อนข้างดี แล้วส่วนตัวก็รู้สึกว่าโซนแถวนี้ มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานกับฝรั่งเศสค่อนข้างเยอะ

บรรยากาศระหว่างทางเดินไปร้าน จากสถานี Kagurazaka Station ไป ร้าน Unagi Hashimoto ครับ

Kagurazaka Station

บางช่วงก็จะเป็นเนินครับ .. บ้านที่อยู่โซนด้านบนเนิน ก็ดูเจ๋งดีเหมือนกันนะครับ

Kagurazaka Station

ระหว่างทางเดินมาเจอ ศาลเจ้า ดูจากด้านนอก ขลังดี เลยขอแวะเข้าไปซักหน่อย

Kagurazaka Station

คำอธิฐานต่างๆ ไม่ว่าจะชาวญี่ปุ่น ชาวต่างชาติ .. โดยเฉพาะชาวไทย อย่างผม ก็เอาไปรวมอยู่ด้วย ^_^

Kagurazaka Station

หลังจากออกมาจากศาลเจ้า ร้านต่างๆ ริมถนน ก็จะมีของตกแต่งร้าน น่ารักๆ ตั้งโชว์ไว้ด้านหน้าร้านแบบนี้ตลอดทาง

Kagurazaka Station

ดูเงียบสงบดีนะครับ .. ชอบบรรยากาศบ้านเมืองของประเทศญี่ปุ่นมากครับ มองไปทางไหนก็ดูสบายตาไปซ่ะหมด

ตู้ขายน้ำ ญี่ปุ่น

อีกเรื่องนึงที่เวลาไปญี่ปุ่น มักจะไม่พลาดก็คือ เรื่องนี้ครับ .. ตู้ขายน้ำ อัตโนมัติ ซึ่งผมก็จะลองกดน้ำหลายๆแบบออกมาลองกินกับแฟนอยู่ตลอด อันไหนชอบก็จะถ่ายเก็บไว้

ตู้ขายน้ำ ญี่ปุ่น

อย่างรอบนี้ผมลองกาแฟของ BOSS ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น ลาเต้ (Latte) มั้ง ส่วนของแฟนเป็นแบบชาเขียวร้อน .. ตู้กดน้ำอัตโนมัติ ที่ประเทศญี่ปุ่น นี่ก็จะดีตรงที่ บางตู้อาจจะเป็นแบบเย็นอย่างเดียว บางตู้ก็จะมีทั้งแบบร้อนและแบบเย็น หรือบางตู้ ก็ร้อนหมดเลย ไม่ชัวร์ว่าเค้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาหรือเปล่า ถ้าปรับได้ตลอดเวลานี่ โคตรเจ๋งงง

เดินมาซักพัก ก็ถึงร้านข้าวเที่ยงของวันนนี้แล้วคับ ร้าน Hashimoto (うなぎ屋) ..

Unagi Hashimoto うなぎ はし本

พิกัด ร้าน Hashimoto ครับ .. รูปตรงกันเป๊ะ ไม่ผิดร้านแน่นอน 555

เข้าใจว่า ณ ปี 2023 ร้าน Hashimoto นั้น เหมือนจะไม่ได้อยู่ใน Michelin Star แล้ว แต่ยังได้ BIB GOURMAND (บิบ กรูมองด์) อยู่นะครับ ซึ่งรางวัลนี้ ก็จะไม่ได้ด้อยไปกว่า ดาวมิชลิน (Stars) เท่าไหร่นัก โดยจะดูจาก อาหารอร่อย และ ราคาสมเหตุสมผล เป็นหลักครับ

หลังจากแจ้งทางร้านว่าจองไว้เรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานก็พาไปนั่งที่โต๊ะครับ .. รอบนี้ผมไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศในร้านไว้ แต่ถ่ายเป็นวีดีโอไว้แทน ไว้จะเอาคลิปมา update ลงให้อีกทีนะครับ

Unagi Hashimoto うなぎ はし本

อุปกรณ์ถูกวางไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อยครับ

Unagi Hashimoto うなぎ はし本

เมนูแรกมาแล้วครับ eel egg Roll เป็นแนว ไข่หวาน หรือ Tamago ที่มีไส้ตรงกลางเป็นปลาไหลครับ กลิ่นหอมจางๆของไข่ กับความหวานเล็กน้อยของน้ำซอสที่ปรุงรสมา ความนิ่มที่ละลายเมื่ออยู่ในปาก อือหือ .. รสชาตยังคงเหมือนเมื่อครั้งก่อนที่มากินเมื่อ 5 ปีที่แล้ว .. นี่แค่จานเรียกน้ำย่อย แต่ impact รุนแรงเว่อร์

ตับปลาไหลย่าง Unagi Hashimoto うなぎ はし本

เมนูถัดไป เป็นเมนูที่นึกถึงอยู่ตลอดเวลาครับ เพราะมันอร่อยมากกก ก.ไก่ล้านตัว ซึ่งครั้งก่อนนั้นที่กิน ก็แบบโอวววส์ มันอร่อยได้ขนาดนี้เลยเหรอ .. มันคือ ตับปลาไหลย่าง ครับ สำหรับคนที่ชอบกินพวกตับไก่ย่างนั้น ถ้าได้ลองกิน ตับปลาไหลย่าง มันจะมีความละเอียดของตัวตับมากกว่า และ รสชาตเข้มข้นมากกว่า กลิ่นหอมของตับที่ไหม้เล็กน้อย มันเรียกน้ำลายได้สุดๆครับ เมนูนี้ อยากให้ลองมากๆ มันดีจริงๆ ลองเถอะ ได้โปรดดด

ปลาไหลย่าง Unagi Hashimoto うなぎ はし本

จานหลักของแฟนผมมาแล้วครับ ปลาไหลย่าง (Grilled eel) เค้าสั่งแบบไซส์เล็ก (Small size) ราคาอยู่ที่ 3,600 เยน .. มาแบบหอมๆ มีติดไหม้ส่วนที่เป็นซอสนิดหน่อย นี่แหละ อร่อยเลย 555 .. ข้าวมาแบบหุงสุกกำลังดี ราดน้ำซอสมาทั่ว หิวเลยยย

ปลาไหลย่าง ที่ ร้าน Hashimoto うなぎ はし本

ส่วนของผม ปลาไหลย่าง แบบไซล์กลาง (Regular size) ราคาอยู่ที่ 4,300 เยน .. ขนาดใหญ่ขึ้นมานิดหน่อย ส่วนขนาดของกล่องเท่ากัน แตกต่างกันเฉพาะที่ชิ้นปลาไหลย่างเท่านั้นครับ .. “อิตาดาคิมัส” itadakimasu (いただきます) …………………………….

ปลาไหลย่าง Unagi Hashimoto うなぎ はし本

ซูมให้ดูความฉ่ำของเนื้อปลาไหล ที่ด้านนอกถูกเครือบด้วยซอสสำหรับย่างปลาไหล ส่วนด้านในนั้น ยังคงความฉ่ำของตัวเนื้อปลาไหล ไม่แห้งนัก ซึ่งทำให้เนื้อปลาไหลนั้นยังคงความหวาน และได้ความนุ่มเวลากินอีกด้วย .. แค่เห็นรูปก็อยากกินอีกแล้วครับ

สำหรับร้าน Hashimoto นั้น ส่วนตัวผมว่ายังให้เป็นอันดับหนึ่ง เท่าที่ไปตะลอนกินร้านปลาไหลมาจากทั้งหมด 3 ร้าน ของรอบนี้ เรื่องบริการคิดว่าเป็นระดับของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะร้านไหนก็แทบไม่ต่างกัน แต่เรื่องรสชาตของปลาไหล ต่างกันชัดแน่นอน เพราะไม่ว่าจะตัวซอส หรือ วิธีการย่าง เป็นสูตรของแต่ละร้าน ซึ่งคนอื่นหากไปกินที่ร้านนี้แล้ว ก็อาจจะไม่ได้ชอบมากที่สุดเหมือนผม แต่ส่วนตัวผมนั้น ยังคงชอบร้านนี้ที่สุดอยู่คับ ถ้าเจอร้านไหน ที่อร่อยพอๆกัน หรือ อร่อยกว่า จะมา update ให้อีกที

ค่าเสียหายวันนนี้ โดนไปประมาณ 10,900 เยนครับ .. ราคาดีเลยแหละ

Unagi Hashimoto うなぎ はし本

หลังจากกินเสร็จจาก ร้าน Hashimoto Unagi เรียบร้อยแล้ว ก็เดินย่อยกลับไปขึ้นรถที่สถานี Edogawabashi Station ครับ ก็ไม่ได้ไกลจากที่ร้านเท่าไหร่นัก แต่ก็เดินอ้อมไปนิดๆ เพื่อเดินดูโน้นนี่นั้นไปด้วย

Kagurazaka Station

ด้วยความที่ ราคาที่ดิน ในญี่ปุ่นนั้น ค่อนข้างแพง จึงมักจะเห็นที่จอดรถที่เป็นแบบลิฟท์แนวนี้เยอะพอสมควรครับ อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นแบบ private หรือเปล่า เพราะดูแล้วเหมือนจะไม่ได้เปิดประตูเพื่อให้คนเข้าไปจอด .. ถ้าเป็นแบบส่วนตัวนี่ อลังการแท้

ร้านอาหาไทย asiatique restaurant & bar ที่ญี่ปุ่น

เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอป้ายร้านอาหารไทยครับ ร้าน asiatique restaurant & bar .. เลยเดินเข้าไปดูเมนูซักนิด แต่ดูแล้ว ไม่ชัวร์ว่าทางเจ้าของเป็นของไทยหรือเปล่า เพราะก็เห็นมีเมนูอาหารของประเทศอินเดียด้วย อยากจะแวะเข้าไปกินข้าวกระเพาซักหน่อย แก้เบื่ออาหารญี่ปุ่น 555

On the Corner .. Coffee House

เดินมาเจอร้านนี้รับ On the Corner (Coffee House) ดูทรงร้านแต่งแนว country นิดๆ แนวดี

ตู้ขายไอศกรีม ญี่ปุ่น

ตู้นี้ เป็น ตู้ขายไอศกรีม ครับ .. เจอในสถานีรถไฟ Edogawabashi Station .. ที่ญี่ปุ่นนี่ มีตู้อัตโนมัติมากมายหลายแบบดีแท้ คิดอยู่ว่า ถ้าช่วงอากาศร้อนๆ ตู้ที่ทำความเย็นขนาดนี้ มันจะคุ้มค่าไฟใช่มั้ย ???

กินอิ่มๆจาก ปลาไหลย่าง แฟนผมก็เลยจะไปเดิน shopping แถว Shibuya ครับ ผมก็เลยจะไปนั่งรอ ที่ Starbuck แทน จะได้ดูคนข้ามถนนเพลินๆไปด้วย .. ซึ่ง Starbucks สาขา Tsutaya ที่จะไปนั่งนั้นอยู่ตรงถนน Shibuya Crossing พอดี แต่อาจจะถ่ายติดรูปป้อมตำรวจมานิดหน่อย แต่ก็ถือว่าโอเคอยู่ครับ .. ตัวอย่างวิวจากที่นั่งริมกระจกในร้าน Starbucks ที่ตึก Tsutaya ก็จะประมาณนี้

หลังจากนั่งรอแฟนช๊อปปิ้งจนเบื่อ ผมเลยเดินออกจากตึกนี้ แล้วแวะไปหาแฟนที่ H&M .. ช่วงเวลา 5 โมงกว่า คนก็เริ่มเดินเยอะกันมากขึ้นแล้วครับ ระหว่างเดินๆอยู่ นึกถึงร้านแซนวิชที่เคยกิน แล้วก็อยู่ไม่ไกลด้วย เลยแวะมากินนิดหน่อย เพราะแฟนอยากมาอยู่พอดีครับ .. ร้าน LUKE’s LOBSTER ครับ

Luke's Lobster Shibuya Park Street Shop

ร้านนี้เมนูที่ฮิต จะเป็น ขนมปังที่มีไส้เป็นเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ ซึ่งที่ร้านก็มีไส้อื่นๆเหมือนกัน เช่น กุ้ง ปู ..

Luke's Lobster Shibuya Park Street Shop

กินให้อร่อย ก็ต้องกินกับเบียร์ สิเนอะ .. Brooklyn Lager อร่อยดีแท้

Luke's Lobster Shibuya Park Street Shop

หลังจากรอซักพัก .. ได้แล้วครับ ขนมปังจะมาแบบอุ่นๆ นิดหน่อยครับ แต่ตัวเนื้อล็อบสเตอร์จะติดเย็นนิดๆ อันนี้ไม่รู้ว่าถ้าทำให้อุ่นแล้ว ตัวเนื้อของกุ้งล็อบสเตอร์จะเหนียวหรือว่าอย่างไร ทางร้านเลยเสริฟเป็นแบบเย็นนิดๆมา แล้วก็เสริฟมาพร้อมกับ มันฝรั่ง น่าจะทั้งลูกที่หั่นแยกเป็นส่วนๆ ทอดมาร้อนๆเลยครับ

Luke's Lobster Shibuya Park Street Shop

ยัดเนื้อกุ้งล๊อบสเตอร์มาให้แบบแน่นๆ ส่วนตัวผมก็ชอบนะ ยิ่งกินกับเบียร์ด้วยนี่ อร่อยเลยแหละ เนื้อกุ้งล๊อบสเตอร์หวานดี แน่นด้วย ไม่เละ มาแบบชิ้นเป้งๆ ฟินนน

พิกัดร้าน Luke’s Lobster Shibuya Park Street Shop ครับ

หลังจากนั่งกินหน้าร้านเรียบร้อยแล้ว สายตาแอบไปเห็นร้านเสื้อ Stussy .. เลยได้เสียเงินแบบไม่รู้ตัวซ่ะงั้น เสื้อลายใหม่ พึ่งออกมาเมื่อวานพอดี โดนเลย

Stüssy Shibuya - 스투시

เสียเงินแล้วก็กลับที่พักได้ สบายใจแล้ว .. กลับมาถึงแถว Nakano Broadway ประมาณ 19:00 น. เลยแวะเข้าไปเดินเล่นใน Broadway ซักนิดครับ ร้านยังเปิดอยู่ค่อนข้างเยอะ เพราะส่วนใหญ่จะเริ่มปิดร้านกันประมาณ 19:30 – 20:00 ครับ

เจอร้านขายน้องหมาน้องแมว น่ารักหลายตัวเลย แต่ราคา น้องหมา น้องแมว ที่ญี่ปุ่นนี่ เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ

เดินไปซักพัก ร้านก็เริ่มทยอยปิด แฟนผมก็เลยชวนที่พักครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อขับรถไป โกดังที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโกดังที่ผมส่งของที่ซื้อจากในญี่ปุ่นแล้วส่งกลับไปไทย ผ่านทาง shipping ที่รู้จักครับ เลยจะขอไปดูที่โกดังซักหน่อย เพราะอยากจะกำลังทำธุรกิจเพิ่มเติมเกี่ยวกับพวก อะไหล่รถมือสอง จากญี่ปุ่น รวมถึงของต่างๆ ที่ไม่ผิดกฏหมาย และ สามารถส่งกลับไปขายที่ไทยได้ครับ

สำหรับ 9 Days at Japan in 2023 (Day 7) ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้นะครับ สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่อยากจะสั่งซื้อของจากประเทศญี่ปุ่น แล้วส่งกลับมาไทย สามารถติดต่อผมมาได้ครับ ที่ Line ID : nomerzy ครับ หรือ สามารถเข้าไปดูที่ Facebook : Nut Autoparts ได้ครับ

To be continue .. 9 Days at Japan in 2023 (Day 8)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top