สำหรับวันที่ Day 4 ผมยังอยู่ที่ Takayama คับ วันนี้มีแพลนไปตะลอนกันที่ Shirakawa-Go (Shirakawa Village) คับ แอบลุ้นอยู่เล็กๆ ว่าจะมีหิมะฟูๆเยอะๆมั้ย เดี๋ยวตามไปดูกันคับ ว่่าทริปนี้ผมพก ดวง มาด้วยหรือเปล่า .. จะเจอหิมะมั้ยน้าาา
ลองทำเป็น video ยาวๆ ดูครับ .. ฮาาาา มีแต่ video นะครับ เป็นการขับรถจาก ตัวเมือง Takayama ไปยัง Shirakawa-go ครับ
กลับมาตอนเช้า .. วันนี้ผมรีบตื่นมาเช้า เพราะเตรียมตัวจะไปแช่ออนเซ็น (Onsen) แบบห้องส่วนตัว ของที่โรงแรม Wat Hotel & Spa Hida Takayama ซึ่งก็แอบไปสำรวจมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ตามโพสก่อนหน้านี้คับ
ไม่รู้เพราะเช้าอยู่หรือเปล่า .. มีคนมาก่อนหน้าผมแค่ 2-3 คนเท่านั้น เงียบดีแท้
สำหรับห้อง private ของที่ Wat Hotel & Spa Hida Takayama จะไม่มีแบบการจองนะคับ จะใช้ป้ายเป็นการบอกคนอื่นว่า ห้องนี้ว่าง (VACANT) หรือ ห้องนี้ไม่ว่าง (OCCUPIED) แทน .. ซึ่งถ้าหากใครจะใช้ห้อง ก็ต้องสลับป้ายเป็น Occupied ทุกครั้ง แล้วก็หลังจากใช้เสร็จ ก็ต้องเปลี่ยนเป็น Vacant ด้วยเหมือนกัน .. แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเข้าห้องไปได้นะคับ เพราะกรณีที่มีคนอยู่ด้านในห้องนั้น คนที่อยู่ด้านในสามารถที่จะล๊อกประตูได้เช่นกัน
ห้องออนเซ็น แบบ private ของที่โรงแรม ค่อนข้างโอเคนะคับ ผมไปถึงที่ห้องออนเซ็นตั้งแต่ยังไม่ 6 โมง .. น่าจะเป็นคิวแรก เพราะว่าหิมะที่อยู่บริเวณด้านนอกยังสวยอยู่เลย 555
เลยได้แช่ออนเซ็น ตอนหิมะกำลังตก เป็นการพักผ่อนที่ดีแท้ ..
** อ้ออ หลังจากใช้ห้อง Onsen แบบ Private เสร็จแล้ว ก็ต้องทำความสะอาดให้ด้วยนะคับ คร่าวๆ เช่น กวาดพวกเศษผมต่างๆ เช็ดกระจก อะไรประมาณนี้
หลังจากขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น ประมาณ 3 รอบ .. ก็แทบจะหมดแรงแล้วครับ เลยมานั่งดูวิวตรงบริเวณโถงนั่งเล่นของโรงแรม ..
เมื่อคืนหิมะน่าจะตกหนักอยู่ ด้านนอกขาวโพลนไปหมดเลย
น่าเสียดายที่ไม่ได้เอารถจอดไว้กลางแจ้ง อดมีกิจกรรมกวาดหิมะออกจากรถเลย 555
หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางไป shirakawa-go กันต่อครับ .. ผมออกจากที่พักประมาณ 07:00 น. เพราะเดี๋ยวต้องแวะซื้อกาแฟที่ Starbuck ก่อน เลยเผื่อเวลาให้ ร้าน Starbuck เปิดก่อนด้วย ..
แวะมาถึงร้าน Starbucks Coffee – Takayama Okamoto スターバックス コーヒー 高山岡本店 หลังจากเวลาเปิดไม่เท่าไหร่ แต่ก็มีคนมานั่งกินกาแฟกันแล้ว .. ระหว่างรอกาแฟ นั่งดูวิวที่ร้านเพลินๆไปก่อน
ส่วนตัวแล้ว ผมว่า พออะไรก็ตาม มีหิมะเป็นส่วนประกอบเข้าไป มันทำให้ดูสวยขึ้นจากเดิมไปอีก มองได้นานๆ ดูได้เพลินๆ ไม่เบื่อเลยจริงๆ .. หรือว่าเพราะที่ประเทศไทยไม่มีหิมะ มันเลยทำให้เป็นสิ่งที่ไม่คุ้นตาก็ไม่รู้สินะครับ
แผนที่ ร้าน Starbuck ในโซนเมือง Takayama ครับ .. เผื่อใครจะแวะไปนั่งกินกาแฟ เวลาไปที่เมือง Takayama ครับ
หลังจากซื้อกาแฟเสร็จ ก็ออกเดินทางไป Shirakawa-Go Village กันต่อเลยครับ .. เนื่องจากหิมะตกเมื่อคืนเยอะพอสมควร บนถนนเลยมีหิมะตลอดทาง แต่ก็ขับรถไม่ยากครับ สบายๆ
ระหว่างทางที่ขับรถไปนั้น ก็เจอหิมะตกเบาๆบ้าง ก็ขับกันไปช้าๆ ไม่ได้รีบอะไรคับ ถนนก็ไม่ลื่นเท่าไหร่ ไม่ชัวร์ว่าเพราะใส่ยางสำหรับหิมะด้วยหรือเปล่า รู้สึกว่ามันเกาะถนนค่อนข้างดีเลย
ตรงนี้ เดี๋ยวจะเอาวีดีโอ ที่ถ่ายตอนเดินทางไป หมู่บ้าน Shirakawa-Go มาลงเพิ่มเติมให้นะครับ …
สำหรับอันนี้เป็นแผนที่ในโซน shirakawa-go village ครับ ซึ่งก็เป็นเอกสารที่ทางการท่องเที่ยวของ Takayama ทำไว้แจกนักท่องเที่ยว มีหลายภาษาเลย แผนที่อันนี้มีให้หยิบได้ฟรีที่จุดจอดรถบัสครับ
หลังจากขับรถไปถึงแล้ว ผมเอารถไปจอดที่ตำแหน่งด้านล่างตรงกลางทางขวา (ที่จอดรถ เซเซรากิ) ตามแผนที่ครับ เพราะตรงนี้ สามารถที่จะเดินข้างสะพานแขวน ข้ามไปยังหมูบ้านได้ครับ และเป็นจุดถ่ายรูปที่หลายๆคน ต้องแวะมาถ่ายครับ
คลิป
แล้วก็จุดถ่ายรูปที่เวลาทุกคนมาถึงหมู่บ้าน Shirakawa Go แล้วต้องมาถ่ายคือจุดชมวิวด้านบนคับ ตรงนี้สามารถเดินขึ้นมาก็ได้ หรือ จะนั่งรถบัส ที่ทางหมูบ้านมีไว้บริการก็ได้นะคับ ค่ารถต่อคนต่อรอบ ถ้าจำไม่ผิดคือ 200 เยน ครับ
วิวก็จะสวยยยยยย แบบนี้ (อันนี้เป็นรูปที่ถ่ายไว้ครั้งก่อนครับ) .. แต่ช่วงที่ผมไปรอบนี้นั้น หิมะกำลังตก ท้องฟ้ามีเมฆเยอะ ภาพที่ถ่ายออกมา อาจจะไม่ได้สวยมากนักครับ เพราะแสงแดด แทบไม่มีเลย .. ดูเป็นภาพเคลื่อนไหวแทนแล้วกัน 555
ส่วนบรรยากาศในหมูบ้าน ก็จะประมาณนี้คับ .. ขอเอารูปบางส่วนมาลง เพราะส่วนใหญ่ถ่ายเป็นวีดีโอใน GoPro หมดเลย รูปในมือถือเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ
คลิปนี้ ผมถ่ายระหว่างเดินข้ามสะพานกลับไปที่รถครับ ช่วงนั้นหิมะกำลังตกอย่างหนักหน่วง ลมแรง ถึงวิวจะไม่ได้สวยมากนัก แต่ผมโคตรชอบเลย 555
โดยรวมแล้ว การมาที่หมูบ้าน Shirakawago นี้ ก็น่าจะต้องอาศัยดวงด้วยระดับนึงครับ เพราะส่วนตัวผมก็แอบลุ้นแค่ว่า อยากให้มีหิมะตก หิมะฟู เยอะๆ จะได้ถ่ายรูปสวยๆ กลายเป็นว่า หิมะตกให้เลยครับ แถมหนักด้วย 555 ก็ได้ไปอีกอารมรณ์นึง ซึ่งผมใช้เวลาอยู่ที่ หมู่บ้านชิราคะวาโกะ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เลยยย แต่ก็ยังรู้สึกว่า ยังไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่ .. ยังไงก็ อยากให้แวะมากันครับ สำหรับที่นี่ เพราะผมรู้สึกว่า เป็นหมู่บ้านที่ยังคงความดั้งเดิมไว้ได้เยอะพอสมควร
หลังจากเดินตามหิมะกันจนมือแข็งแล้ว ก็ขอยอมแพ้ ขึ้นรถขับกลับ takayama แล้วครับ .. เพราะด้วยความที่ต้องคอยถอดถุงมือเพื่อถ่ายรูป ก็เลยมีบางจังหวะที่ทำให้มือเปียก เย็นสะใจดีแท้ มือชาเลยทีเดียว
วิวระหว่างทางขากลับไป takayama ครับ …
คลิป
กลับมาถึง Takayama ก็เดินหาอะไรร้อนๆกินก่อนเลยคับ .. มาเจอร้าน ramen ร้านนี้ จากการแอบส่องคะแนนใน google เห็นว่า comment ค่อนข้างใช้ได้ เลยลองแวะเข้าไปกินดู .. อร่อยยยย เลยครับ
พิกัดร้าน Menya TOTO ร้าน ramen ใน takayama
จานนี้ของแฟนผม ..
ส่วนจานนี้ของผมคับ น้ำซุบน่าจะเป็นแบบแนว Tonkotsu Soup คับ หอมละมุนมาก หนาวๆ แบบนี้ ซดเพลินเลยทีเดียว .. ดูเหมือนจะเจอของดีเข้าให้แล้ว รู้สึกอร่อยเหมือนตอนกินที่ Ippudo เลยแหละ
สำหรับมื้อนี้ เป็นมื้อเที่ยงของวันนี้ครับ แต่ก็กว่าจะได้กินก็ประมาณ บ่ายโมงนิดๆแล้ว .. ซึ่งวันนี้ตอนเย็นมีแพลนไปกิน ซูชิ ร้านที่คนไทยจะชอบมากินกันครับ .. ซึ่งระหว่านี้ ก็เดินเรื่อยเปื่อยกินโน้นนิดนี่หน่อย ไปเรื่อยๆ
สะพานแดง จุดที่หลายๆคนมักจะมาแวะถ่ายรูปกันครับ ..
ร้านนึงที่ติดใจก็คือ ไอศกรีมน้ำผึ้ง ครับ ..
ตัว Ice-Cream ไม่เท่าไหร่คับ แต่ที่โดนใจมากมายคือ น้ำผึ้งกับรวงผึ้งที่อยู่ในแก้วคับ มันหวานละมุนคนละแบบกับที่ไทย อาจจะเพราะว่ามันเป็นน้ำผึ้งที่มาจากต้อนส้ม Yuzu ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่หอมและละมุนลิ้นมากกก เป็นเมนูไอศกรีม ที่อยากกินต่ออีกถ้วยเลย .. อ้อ ในญี่ปุ่นน่าจะมีหลายสาขาอยู่คับ อันนี้เป็นร้านสาขาที่ Takayama คับ
หลังจากเดินกันจนขาลาก ก็ใกล้ถึงเวลาที่ร้านซูชิจะเปิดแล้วครับ .. ร้านที่เราจะไปกินกันวันนี้ คือ ร้าน Matsuki Sushi 松喜すし ครับ .. พิกัดร้าน Matsuki Sushi 松喜すし ครับ
ด้านหน้าร้าน Matsuki Sushi 松喜すし จะเป็นแบบนี้ครับ .. เพราะตรงนั้นจะมีร้านฝั่งตรงข้ามที่เหมือนจะเป็นร้านซูชิ เหมือนกัน .. เดี๋ยวจะเข้าผิดร้าน
เข้ามาเป็นคนแรก ทั้งร้านยังไม่มีลูกค้า เพราะว่ามายืนรอก่อนร้านเปิดประมาณ 5นาที .. ตอนพนักงานที่ร้านถามว่า จองไว้มั้ย ใจหล่นไปที่ตาตุ่มแล้ว ว่าอดกินแหง่ .. แต่พอคุยไปคุยมา อ่ออ ยังเหลือที่เยอะอยู่ เลยเลือกนั่งตรงบาร์เลยครับ
ทางคุณป้าพนักงาน นำอุปกรณ์มาวางให้ทันที .. ส่วนน้องเชพ ก็นำขิงดองมาวางไว้ให้บนบาร์ แบบในรูปเลย .. ซึ่งก่อนวาง เค้าก็นำผ้ามาเช็ดให้ก่อนรอบนึงอีกทีด้วยครับ
วันนี้ขอลอง Kirin อีกซักรอบ เพราะวันก่อนยังติดใจที่ร้าน Kirin City Plus Shinjuku อยู่เลย .. มาแบบเย็นๆ นี่ หวานดีแท้
ระหว่างรอ เลยขอถ่ายวัตถุดิบในตู้ซักนิด .. เจออยู่อย่างนึงที่ดึงสายตามมากกก น่าโดนแท้
วัตถุดิบที่ว่านั้นก็คือ ชิราโกะ (Shirako) ท่อเก็บน้ำอสุจิของปลา ครับ ซึ่งเป็นของที่นิยมในญี่ปุ่นพอสมควร ใจนึงผมก็อยากลองนะ แต่ยังไม่รู้ว่าต้องกินแบบไหน เพราะเท่าที่หาข้อมูลดู มีทั้งแบบ burn แบบดองโชยุ แบบซูชิ แบบ ซาซิมิ โอยยยย .. ขอดูอย่างเดียวก่อนแล้วกัน 555
เซ็ทแรกของแฟนผม สั่งเป็นแบบ ซูชิ 7 คำ ถ้าจำไม่ผิด มี โอโทโร่ (Otoro) โฮตาเตะ (Hotate) ปลาหมึก (ไม่ชัวร์ว่าเป็นปลาหมึกอะไร) กุ้ง (Ebi) … อีก 2 คำ จำไม่ได้แล้ว แต่ทีเด็ดสำหรับ ปลาหมึก ของที่ร้านนี้ คือ พอเค้าทำเสร็จแล้ว เค้าจะเอาเนื้อปลาหมึก มาปาลงบนโต๊ะตรงด้านหน้าคนสั่ง (ตอนแรกก็ งง ว่าโมโหอะไรใครมาฟ่ะ มาปาอาหารลงบนโต๊ะแบบนี้ 555) .. แต่พอปลาหมึกโดนกระแทกลงบนโต๊ะ มันก็ดิ้นนนน ฮ่ะ บิดตัวใหญ่เลย คือเค้าจะโชว์ว่ามันสดแหละ แค่นั้น .. จ๊ะ
ส่วนของผมสั่งแยกเป็นคำๆ ไป .. สั่งเฉพาะที่อยากกินเท่านั้นเลย 555 คำนี้เป็น Hida beef ท๊อปด้วย Uni .. พอใส่ปากเข้าไปแค่นั้นแหละ ถึงกับต้องสั่ง ไข่ตุ๋น ที่โปะด้วย Uni มาอีกถ้วยเลย Uni อร่อยโคตร ยังกับคัสตาด … ตอนกินนี่ แอบคิดไว้เล็กๆ ว่า ไม่ Bafun ก็ Murasaki แหงๆ ซึ่งเป็น 2สายพันธ์ ที่ผมเคยกินแต่ตอนอยู่ที่ไทย มาที่นี่ ยังไม่เคยได้ลองแบบเต็มๆ ซักที รอบนี้ได้โอกาศ เลยขอลองแบบเต็มๆซักครั้ง
มิโซะซุปปู .. อูยยย มันหอม มันอร่อย มันหวานนน มาก รสอุมามิ มาเต็ม .. คือละมุนดีแท้
ชุดซาซิมิ ก็ตามมาติดๆ เพราะแฟนบอกแบบ ซูชิ อร่อย ผมเลยสั่ง ซาซิมิ มาลองกินดูบ้าง อร่อยดีคับ
เทมปุระกุ้ง .. มีผักทอดเพิ่มมาอีกนิดหน่อย ทอดมาดีคับ กุ้งหวานเลย
Sushi ที่สั่งไปเป็นคำๆ ก็ทยอยวางมาเรื่อยๆ แต่พอเริ่มกินแล้ว ผมก็ไม่ได้ถ่ายต่ออีกเลย เพราะผมใช้มือหยิบ เลยขี้เกียจเช็ดไปเช็ดมา ยิ่งกินเพลินๆด้วยเลยปล่อยไหลเลยยยยยย 555 .. เสียดายที่ไม่ได้ถ่าย Anago (ปลาไหลทะเล) เพราะมาอย่างยาว แถมอร่อยโคตร เพราะถึงกับต้องสั่งซ้ำเลยทีเดียว
มาแล้วครับ .. สิ่งที่รออยู่ รายการเด็ดสำหรับมือนี้ .. ไข่ตุ๋น ท๊อปด้วย Murasaki Uni (หลังจากกินแล้ว ทนไม่ไหว อยากรู้ว่าคือสายพันธุ์ไหน เลยถามพี่เชฟ เค้าบอกว่า รอบนี้เป็น Murasaki Uni ครับ)
สั่งไข่ตุ๋นแบบเปล่าๆ มาให้แฟนด้วย 555 .. เพราะแฟนผมเคยกิน Uni ที่ไทยแล้วเค้าบอกคาว เลยไม่กินอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น .. แต่รอบนี้ พอผมได้ลองกินเสร็จปุ๊บ เลยบอกให้เค้าลองกินดู เค้าบอกว่า มันหวาน อร่อยเหมือนคัสตาดจริงๆ ทีนี้ลำบากผมเลย เพราะนางดันชอบซ่ะงั้น T_T
กินกับเบียร์ ก็อร่อยนะ เป็นช่วงเวลาที่ละเมียดมาก อยากสั่งอีกถ้วยเลย แต่ราคาแอบโหดไปนิด .. สำหรับ Day 4 ขอปิดท้ายไว้ที่ภาพนี้แล้วกันนะครับ ส่วนตัวแล้ว ผมว่าร้าน Matsuki Sushi 松喜すし นี่ถือว่าอาหารโอเคเลย ราคาอาจจะแอบแรงไปนิด แต่ส่วนตัวผมว่าคุ้ม ยังไงหากว่าจะมากินที่ร้าน ก็อย่าลืมโทรมาจองโต๊ะไว้ซักหน่อยนะคับ เพราะตอนผมเริ่มกินไปซักพัก คนก็ทยอยมาจนเกือบเต็มร้านเหมือนกัน
To be continue .. 9 Days at Japan in 2023 (Day 5)